เมื่อวันที่ 23 พ.ย.66 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ผบช.ก สั่งการ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ต.อ.อภิชาต โพธิจันทร์ , พ.ต.อ.ศราวุธ ศรีสุขศิริพันธ์ , พ.ต.อ.แม่น เม่นแย้ม ,พ.ต.อ.ขวัญชาติ วงศ์ขจรไพบูลย์, พ.ต.อ.สมยศ ร่มสน, รองผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สั่งการ พ.ต.อ.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น ผู้กำกับการ1 กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ต.ท.ประสาน ฝึกฝน รองผู้กำกับการ1 กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ร.ต.อ.ประดิษฐ์ พรมพาน รอง สารวัตร กองกำกับการ1 กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ นำกำลังจับกุม นางวิไลภรณ์ ฯ อายุ 68 ปี อดีตข้าราชการพลเรือน ตำแหน่ง เจ้าพนักงานการเงินและบัญชีชำนาญงาน สังกัด สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตามหมายจับของ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค ๑ หมายจับ ที่ ๑๒/๒๕๖๕ ลงวันที่ 2 ก.ย.65 ข้อหา “เป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้น เป็นของตนเองหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริต” ได้ที่บริเวณลานจอดรถ วัดแห่งหนึ่ง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก
พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ได้มีการตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณี นางวิไลภรณ์ อดีตข้าราชการพลเรือน ตำแหน่ง เจ้าพนักงานการเงินและบัญชีชำนาญงาน สังกัด สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีพฤติการณ์ใช้อำนาจในตำแหน่งปลอมใบเสร็จรับเงิน ออกเลขที่ใบเสร็จปลอม และลงลายมือชื่อผู้รับเงินเพื่อมอบให้กับคนพิการ โดยไม่มีการโอนเงินเข้าบัญชีเงินกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนพิการ ตั้งแต่ปี 2543-2552 รวมระยะเวลานานกว่า 10 ปี เป็นการยักยอกทรัพย์เงินช่วยเหลือคนพิการไปเป็นจำนวนเงิน 700,080 บาท โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1ได้พิจจารณาแล้ว จึงออกหมายจับให้จับกุมตัว นางวิไลภรณ์ มาดำเนินคดี
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสืบทราบว่า นางวิไลภรณ์ ผู้ต้องหา ปรากฏตัวอยู่ที่บริเวณวัดแห่งหนึ่ง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลกจึงนำกำลังเข้าจับกุมได้ดังกล่าว สอบสวน นางวิไลภรณ์ เบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงควบคุมตัวนำส่ง สำนักงานอัยการพิเศษคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 1 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป