ตามนโยบาย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้ทุกโรงพักนำสถิติการรับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุผ่านฟ้า (191) ที่รวบรวมไว้มาเพื่อวิเคราะห์ลักษณะการก่อเหตุของคนร้ายในแต่ละพื้นที่ ช่วงเวลา สถานที่เกิดเหตุ และแผนประทุษกรรมของคนร้าย โดยนำมาเป็นข้อมูลในการวางแผนป้องกันเหตุต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมตามสภาพพื้นที่ และสามารถนำข้อมูลไปสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้ จากการตรวจสอบข้อมูลพบมีเหตุทุบกระจกรถเกิดขึ้นในพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 ต่อเนื่องกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 เป็นจำนวนมาก เฉพาะสถานีตำรวจนครบาลวังทองหลางมีทั้งหมด 4 เหตุ คนร้ายทุบกระจกรถที่จอดในที่ลับตาขโมยทรัพย์สินภายในรถสร้างความเสียหายให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก
พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง สั่งการ พ.ต.ท.อภิโชค ขนบดี รองผู้กำกับการสืบสวน สถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง พ.ต.ท.ปิตินันท์ แก้วดวงเทียน สารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง พร้อมพวกเข้าสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและพิสูจน์ทราบถึงผู้กระทำความผิดจนสามารถออกหมายจับนายกิตติมศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ที่อยู่ 48/6 แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร ในข้อหา “ลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์นั้นโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป” (ทุบกระจกรถ) ก่อนสนธิกำลังกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 4 เข้าจับกุมได้ที่บริเวณลาดจอดรถเอ๊กตร้า อินน์ บ้านเลขที่ 163 ซอยอ่อนนุช 44 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจากเหตุคนร้ายทุบกระจกรถเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2566 เวลาประมาณ 22.00 น. มีนายโอภาส (ขอสงวนนามสกุล) ผู้เสียหายเดินทางเข้ามาแจ้งความพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง ระบุถูกโจรทุบกระจกหลังขวาของรถยนต์เก๋ง และลักทรัพย์สินภายในรถไป มูลค่าความเสียหายกว่า 20,000 บาท เหตุเกิดบริเวณลานจอดรถกลางซอยพระรามเก้า 13 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหหานคร หลังจากขับรถมาจอดไว้บริเวณลานจอดรถของบริษัทเข้าทำงานตามปกติ พอเลิกงานเดินกลับมาที่รถพบกระจกด้านหลังข้างขวาถูกทุบแตกมีทรัพย์สินสูญหายรวมมูลค่ากว่า 20,000 บาท
สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตามพฤติการณ์เลือกเหยื่อที่จอดรถไว้ในที่ลับตาคน ไม่มีกล้องวงจรปิด ใช้ไขควงงัดร่องยางรองกระจกรถแล้วทุบกระจกขโมยทรัพย์สินที่เหยื่อวางไว้ภายในรถไปขาย ถ้าเป็นเงินสดจะนำไปซื้อทองรูปพรรณที่ร้านขายทองแห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท 93 ในเดือนมิถุนายน 2566 เข้าออกร้านทองประมาณ 4 ครั้ง สอบสวนขยายผลยังรับว่า ก่อเหตุในลักษณะเดียวกันในพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลวังทองหลางอีก 3 ครั้ง บริเวณลานจอดรถหน้า บริษัท น้ำเชี่ยว จำกัด ถนนประดิษฐ์มนูธรรม เเขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร ภายในในหมู่บ้านทาวน์ อิน ทาวน์ ซอย 2 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร ต่อเนื่องในหมู่บ้านทาวน์ อิน ทาวน์ ซอย1 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานครในวันเดียวกัน
สำหรับผู้ต้องหารายนี้เคยมีประวัติต้องโทษคดีทุบกระจกรถในพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลโครกคราม เมื่อปี 2555 ศาลพิพากษาจำคุก 9 เดือน เเละก่อนมาก่อเหตุในครั้งนี้ ผู้ต้องหาเคยทำงานอยู่ที่อู่ซ่อมรถแห่งหนึ่งในซอยอ่อนนุช 46 เป็นเวลาเกือบ 3 ปี และเพิ่งออกจากงานเมื่อกลางเดือนเมษายน 2566 มีความชำนาญและมีความรู้เกี่ยวกับรถยนต์เป็นอย่างดี ขับรถยนต์ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ รุ่น แลนเซอร์ สี น้ำตาล ทะเบียน ชฉ 7512 กรุงเทพมหานคร หรืออาจไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนตระเวนก่อเหตุ เลือกรถยนต์ที่จอดในที่เปลี่ยวหรือลับตาคน แล้วใช้ไขควงงัดร่องยางรองกระจก และทุบกระจกเอาทรัพย์สิน ลงมือมาหลายท้องที่ตั้งแต่ ประเวศ หัวหมาก คลองตัน สายไหม รวมไปถึงพื้นที่บางพลี-เทพารักษ์ จังหวัดสมุทรปราการ
