พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.ต.ไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พ.ต.อ.พาติกรณ์ ศรชัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พ.ต.อ.บุญฤทธิ์ ศรีวิจิตร รองผู้บังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลาง และหน่วยงานรักษากฎหมาย กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดปฎิบัติการทลายรังคอลเซ็นเตอร์ ปิดล้อมตรวจค้น 36 เป้าหมาย ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดร้อยเอ็ด
จุดที่น่าสนใจเป็นการตรวจค้นบ้านเลขที่ 388/53 หมู่ 10 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี พบเอกสารหลักฐาน อาทิ สมุดบัญชีธนาคารจำนวนมาก โทรศัพท์มือถือกว่า 10 เครื่อง รถยนต์ 4 อาวุธปืน1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุน นำตัวชายชาวอินเดีย พร้อมกับหญิงคนไทย3 คนมาสอบปากคำ
เบื้องหลังปฏิบัติการ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เป็นการร่วมมือระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงา สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐอเมริกา และหน่วยงานรักษากฎหมาย กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ประเทศสหรัฐอเมริกา ในการแสวงหาความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ กรณีนี้สืบเนื่องจากทั้งสองหน่วยงานของสหรัฐอเมริกาได้รับรายงานว่ามีผู้เสียหายเป็นพลเมืองของประเทศสหรัฐอเมริกาถูกขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้อุบายหลอกเหยื่อ แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่เอฟบีไอหลอกว่าธุรกรรมการเงิน และเงินในบัญชีของเหยื่อมีความผิดปกติ รวมทั้งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด เหยื่อส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ตลอดระยะเวลา 2 ปี พบมีผู้ตกเป็นเหยื่อ 365 ราย เสียหายกว่า3พันกว่าล้านบาท จากแนวทางการสืบสวนพบว่ามีการโอนเงินข้ามประเทศและใช้ประเทศไทยเป็นฐานที่ตั้ง ก่อนนำข้อมูลสืบสวนหารือกับพล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ประสานหน่วยเกี่ยวข้องเปิดปฏิบัติการดังกล่าว
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติระบุด้วยว่า อาชญากรรมข้ามชาติถือเป็นภัยคุกคามที่สำคัญ และเป็นนโยบายที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญ พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานเพิ่มความเข้มสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มคนร้ายต่างชาติเข้ามาในประเทศไทย และใช้ประเทศไทยเป็นที่หลบซ่อนหรือเตรียมการในการกระทำความผิด อย่างไรก็ตามจะทำการขยายผลพร้อมประสานงานกับทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อยึดทรัพย์ขบวนการนี้ต่อไป