ตีระฆังต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเปิดนิทรรศการ “ของขวัญปีใหม่ จากตำรวจไทยสู่ประชาชน” รับปี 2566
มี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ภูมิใจนำเสนองานประชาสัมพันธ์ตามนโยบายรัฐบาล 9 โครงการ ประกอบด้วย
โครงการประชาอุ่นใจ ตำรวจเข้มแข็ง เน้นการป้องกันอาชญากรรม ให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นอุ่นใจ เช่น โครงการฝากบ้าน 4.0 เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยบ้านและทรัพย์สินของประชาชนที่ไม่มีผู้อยู่ในอาศัยในช่วงเทศกาล โดยลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ฝากบ้าน 4.0” หรือ โทรศัพท์หรือแจ้งด้วยตนเองกับสถานีตำรวจในพื้นที่ โครงการเพื่อนบ้านเตือนภัย สร้างความร่วมมือจากประชาชนในการช่วยกันดูแลความปลอดภัยให้แก่กันและกัน โครงการ Stop Walk & Talk เก็บข้อมูลจากการพูดคุยกับประชาชน แล้วนำข้อมูลไปใช้ในการป้องกันอาชญากรรม โครงการ 1 ตำรวจ 1 ชุมชน เป็นการเปิดช่องทางในการรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากประชาชน สู่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
โครงการชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด แบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ ที่ได้ดำเนินการไปแล้ว 2,966 หมู่บ้าน/ชุมชน และในปี 2566 จะดำเนินการอีก 1,483 หมู่บ้าน/ชุมชน นำผู้เสพยาเสพติดสู่การบำบัดรักษาโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน CBTx โครงการค้นหาผู้ใช้ ผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด ผู้มีอาการทางจิต และผู้ป่วยจิตเวช เพื่อนำเข้าสู่การบำบัดรักษา และมาตรการเชิงรุก ได้ปิดล้อมตรวจค้นชุมชนเพื่อระงับยับยั้งการแพร่ระบาด ตรวจสถานบริการ สถานบันเทิง เพื่อลดการแพร่ระบาดยาเสพติดลงให้ได้เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน
โครงการเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันภัยออนไลน์ ผลิตตำรวจทุกสถานีตำรวจ ข้าราชการและประชาชน 4,584 คน ให้เป็น “ครูวัคซีนไซเบอร์” เผยแพร่ประชาสัมพันธ์สื่อไซเบอร์วัคซีน หรือกลโกงของคนร้ายที่ใช้ในการหลอกลวงเหยื่อบนโลกออนไลน์ ให้ประชาชนรับทราบ และไม่ตกเหยื่อ มีการทำ MOU ระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติกับหน่วยงานต่างๆ เช่น สมาคมธนาคารไทย บริษัทไปรษณีย์ไทย อยู่ระหว่างดำเนินการกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ตลอดจนเครือเจริญโภคภัณฑ์ ทั้งยังได้รับข้อมูลในการสืบสวนกับเอกชน เช่น Lazada, Shopee เพื่อสร้างเครือข่ายในการป้องกันปราบปราม และพัฒนาระบบการรับแจ้งความออนไลน์ ทางสายด่วน 1441, 081 866 3000 และมีระบบแชทบอทผ่าน application Line@police1441 โครงการ “มายซิสบอท” ใช้สื่อสารกับผู้ใช้ผ่านโลกออนไลน์ เพื่อให้คำแนะนำและความรู้แก่เด็ก สตรี เมื่อต้องเผชิญกับความรุนแรงในครอบครัว รวมไปถึงการระบายให้บอทมายซิสฟัง ผ่านแพลตฟอร์มแมสเซนเจอร์ และเฟซบุ๊กในเพจ มายซิส MySis Bot
โครงการขับดี ปลอดภัย ใส่ใจทุกการเดินทาง ปั้น “สุภาพบุรุษจราจร” คัดเลือกตำรวจจราจรที่ปฏิบัติงานดีเด่นในทุกสถานีตำรวจ ทำให้มีตำรวจราจรมืออาชีพในทุกสถานีที่จะดูแลและอำนวยการจราจรแก่ประชาชนอย่างเป็นมิตร การพัฒนา Smart Platform สำหรับอำนวยความสะดวกประชาชนในการเข้าถึงข้อมูลจราจรต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชันขับดี และเว็บ E-Ticket ปรับหน่วยบริการตำรวจทางหลวงที่สะดวกและทันสมัย จัดห้องพักฟรีที่หน่วยบริการทั่วประเทศ รวมจำนวน 205 หน่วย พร้อมเครื่องดื่มและขนม ห้องน้ำ สัญญาณอินเตอร์เน็ต โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
โครงการแก้ปัญหาหนี้สินของข้าราชการตำรวจ ใช้กลไกของสหกรณ์ออมทรัพย์รวมหนี้จากสถาบันการเงินต่าง ๆ มีผู้เข้าร่วมโครงการ 9,617 ราย แก้ไขสำเร็จ 6,569 ราย คิดเป็นร้อยละ 68.3 ยอดเงินจำนวน 8,934,250,945 บาท มีโครงการ Money management and Investment ให้ความรู้เกี่ยวกับการวางแผนทางการเงิน และการลงทุนให้กับข้าราชการตำรวจและครอบครัว ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานเพื่อประชาชนต่อไป
โครงการลบประวัติล้างความผิดคืนชีวิตให้ประชาชน เพิ่มช่องทางการขอตรวจสอบประวัติได้ทางเว็บไซต์ และรับผลได้ทุกจังหวัด โครงการจัดหาเครื่อง LIVE SCAN เพื่อใช้ SCAN ลายพิมพ์นิ้วมือทางอิเล็กทรอนิกส์ แทนการพิมพ์ลายนิ้วมือด้วยหมึกพิมพ์แบบดั้งเดิม ติดตั้งที่สถานีตำรวจ 140 แห่ง สามารถพิมพ์ลายนิ้วมือได้อย่างรวดเร็ว จะขยายโครงการจัดหาเครื่อง LIVE SCAN ให้ครบทั้ง 1,484 สถานีบริกาประชาชนได้ทั้งประเทศ
โครงการแทนความห่วงใยห่างไกลโควิด-19 เป็นการให้บริการฉีดวัคซีน ป้องกันเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 มีแอปพลิเคชัน Police Plus ให้บริการนัดหมาย ตรวจสอบสิทธิ ลงทะเบียนตรวจรักษา และระบบTelemedicine สำหรับการตรวจรักษาแบบ Online ผ่านแอปพลิเคชัน
โครงการศูนย์ไกล่เกลี่ยประจำสถานีตำรวจ มี สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ และสถานีตำรวจนครบาลวัดพระยาไกร เป็น “โรงพักนำร่อง” อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในคดีลหุโทษ คดีความผิดอันยอมความได้และคดีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ตามท้ายพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ปัจจุบันมีผู้ไกล่เกลี่ยที่ผ่านการอบรมและขึ้นทะเบียนแล้วกว่า 1,300 คน ทำหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยประจำโรงพักทั่วประเทศ เพื่อให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างทั่วถึง ลดปริมาณคดีขึ้นสู่ศาล ประหยัดค่าใช้จ่าย เกิดความสมานฉันท์ขึ้นในสังคม
โครงการยกระดับการบริการประชาชนของสถานีตำรวจ มีการปรับปรุง พัฒนาการทำงานให้บริการประชาชนด้วยความรวดเร็ว นำเทคโนโลยีมาใช้ สร้างเครือข่ายออนไลน์กับภาคประชาชน ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในงานตำรวจยิ่งขึ้น ทำงานด้วยความโปร่งใส มีการแจ้งความคืบหน้าทางคดี กำหนดให้มีการสำรวจความพึงพอใจประชาชนต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งประเทศเป็นข้อมูลในการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มประสิทธิภาพทำงานและพิจารณาความดีความชอบ และระบบร้องเรียน ร้องทุกข์แจ้งเบาะแสต่าง ๆ ผ่านระบบออนไลน์ (JCoMs) เพื่อให้เข้าไปช่วยเหลือ แก้ไข ปัญหาที่ประชาชนร้องเรียน ภายใน 30 วัน
ส่วนของขวัญทั้งหมดเหล่านี้จะถูกใจผู้รับหรือไม่ ต้องถามใจประชาชนทั่วประทศ