ตำรวจทางหลวง ร่วม ปส. สกัดจับแก๊งนักบินลอบขนไอซ์100 โล

พล.ต.ต.คงกฤช  เลิศสิทธิกุล  ผบก.ทล. สั่งการ พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล. บูรณาการกำลังร่วมตำรวจ บช.ปส. ตั้งจุดตรวจสกัดจับกุมขบวนการลักลอบขนยาเสพติดสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย นายณรงค์ศักดิ์ อายุ 40 ปี นายศิริศักดิ์ อายุ 43 ปี น.ส.พรเพ็ญ อายุ 19 ปี และ น.ส.เอ (นามสมมติ)  อายุ 17 ปี พร้อมของกลาง ไอซ์ 100 กิโลกรัม รถยนต์ 2 คัน โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง ได้ที่ บริเวณด้านหน้าหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงหลังสวน ริมถนนเถนนหมายเลข 41 ฝั่งขาลงใต้ กม.ที่ 62 จ.ชุมพร

สืบเนื่องจากตำรวจ บช.ปส. ได้สืบทราบว่า จะมีการลักลอบขนยาเสพติดล็อตใหญ่จากพื้นที่จ.ประจวบคีรีขันธ์  ไปส่งให้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่จ.สงขลา โดยใช้รถยนต์ 2 คัน เป็นยานพาหนะขนลำเลียง ทำทีพาครอบครัวไปเที่ยวต่างจังหวัดเพื่ออำพรางหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ จึงแจ้งประสานมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุมพร ให้ตั้งจุดตรวจสกัดตามเส้นทางต้องสงสัยต่างๆ ที่คาดว่ากลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดดังกล่าวน่าจะใช้เป็นทางผ่าน

กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุมพร ได้สังเกตุพบรถยนต์ต้องสงสัยจำนวน 2 คัน มีลักษณะตรงตามที่ได้รับแจ้ง ขับผ่านเข้ามาในพื้นที่  จึงส่งสัญญาณเรียกให้หยุดรถเพื่อทำการตรวจสอบ ก่อนพบภายในรถทั้ง 2 คัน มียาไอซ์ จำนวน 100 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ในกล่องพัสดุจำนวน 6 กล่องจึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานพร้อมคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 รายมาทำการสอบปากคำ

สอบสวน นายณรงค์ศักดิ์ นายศิริศักดิ์ และ น.ส.พรเพ็ญ ให้การรับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจากนายทุนยาเสพติด ให้ขนลำเลียงยาไอซ์ไปส่งให้กับลูกค้า ในพื้นที่ จ.สงขลา โดยได้ค่าจ้างค่าขนครั้งละ 1 แสนบาท ทำมาแล้วหลายครั้ง มีเพียง น.ส.เอ รายเดียวที่ให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับการลักลอบลำเลียงยาเสพติดในครั้งนี้แต่อย่างใด เพียงแค่ถูก น.ส.พรเพ็ญ เพื่อนรุ่นพี่ชักชวนให้เดินมาด้วย อ้างว่าจะพาคนไปเที่ยวที่ จ.สงขลา

ทั้งนี้ภายหลังเสร็จสิ้นขั้นตอนการสอบปากคำในชั้นจับกุม เบื้องต้น จึงแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้ง 4 รายในความผิดฐาน “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 “ ก่อนนำตัวนายณรงค์ศักดิ์ นายศิริศักดิ์ และ น.ส.พรเพ็ญ ส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.สกส. บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนนางสาวเอ ผู้ต้องหาอีกรายที่ยังเป็นเยาวชนนั้น เบื้องต้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สลุย จ.ชุมพร ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

RELATED ARTICLES