พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 จัดสัมมนาพัฒนาศักยภาพของตำรวจภูธรภาค 2 ในการดูแลความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยมี รองผู้บังคับการ และ ผู้กำกับการ (รอง ผบก. ถึง ผกก.) ในสังกัด ตำรวจภูธรภาค 2 กว่า 261 นาย ร่วมสัมมนาครั้งนี้
ผบช.ภ.2 กล่าวว่า เป้าหมายของการสัมมนาครั้งนี้เพื่อพัฒนาบุคลากรในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 2 ให้มีความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถ และทักษะทางการบริหาร มีทัศนะที่กว้างไกล ทันต่อเหตุการณ์ในการบริหารหน่วย มีทักษะในการวิเคราะห์แก้ไขสถานการณ์ มีภาวะผู้นำที่ทันสมัย สร้างสรรค์ โดยมี นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) บรรยายในหัวข้อ อนาคตโลก อนาคตไทย ฉายให้เห็นภาพใหญ่ของเศรษฐกิจ เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม และบทบาทผู้นำแห่งอนาคตที่ข้าราชการตำรวจต้องไม่หลุดวงโคจร ได้รับเกียรติจาก พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. กับหัวข้อ “อนาคตไทยกับความท้าทายของตำรวจ” ที่เน้นย้ำว่าผู้นำในยุคนี้ต้องไม่เพียงแค่สั่งการเก่ง แต่ต้องเข้าใจระบบ เข้าใจคน และเข้าใจเทคโนโลยี
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ยิ่งยศ ได้บรรยายพิเศษ แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับ รอง ผบก. และ ผกก. ในหัวข้อ ตำรวจไทย กับโลกอนาคต ที่ AI ขับเคลื่อน โดยนำประสบการณ์ และตัวอย่างการใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มาถ่ายทอด
พล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวย้ำว่า ผลักดันให้ตำรวจใช้ AI อย่างเป็นรูปธรรม นำประโยชน์จากเทคโนโลยีมาช่วยสนับสนุนงานตำรวจ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เช่น AI Face Recognition หรือ เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า สแกนหาบุคคลตามหมายจับ เฝ้าระวังอาชญากร ยกตัวอย่าง โมเดลจาก สภ.เมืองพัทยา ที่พัฒนาระบบวิเคราะห์อาชญากรรมแบบเรียลไทม์ แสดงผลผ่านโทรศัพท์มือถือ เชื่อมโยงข้อมูลเพื่อการตัดสินใจอย่างแม่นยำและทันเวลา นี่คือการเปลี่ยนข้อมูล ให้กลายเป็นพลังแห่งการป้องกันปราบปราม และเป็นตัวช่วยในการสืบสวน
“ตำรวจยุคใหม่เราต้องไม่หยุดพัฒนา สัมมนาครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การอัปเดตความรู้ แต่คือการ “จุดไฟ” ให้ผู้นำตำรวจในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคตะวันออก ลุกขึ้นมาคิดใหม่ ทำใหม่ และก้าวไปพร้อมโลก เราต้องรู้ เรียนรู้ เท่าทัน และใช้เทคโนโลยีให้เป็น ให้เกิดประโยชน์ อัปเกรดการทำงานของตำรวจให้เป็นตำรวจที่ทันสมัย มีศักยภาพสูง ผลลัพธ์คือการดูแลป้องกันปราบปรามอาชญากรรมอย่างมีประสิทธิภาพ ท้ายที่สุดประชาชนก็จะมีความเชื่อมั่นต่อตำรวจ” ผบช.ภ.2 กล่าว