รวบไวท์ตาคลี มิจฉาชีพออนไลน์ตัวแสบ ปลอมเป็น “สารวัตรแจ๊ะ หลอกขายเสื้อ

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล,พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษกองบัญชาการตำรวจนครบาล พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สารวัตรกองกำกับการสืบสวน3กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล นำกำลังจับกุมตัว นายณรงค์ฤทธิ์ หรือไวท์ สุขีเกตุ อายุ 30 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 3748/2566 ลงวันที่ 1พ.ย. 66 ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”

ประมาณเมื่อวันที่ 26 ก.พ. 65 นายณรงค์ฤทธิ์ ผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งเป็นมิจฉาชีพออนไลน์ตัวแสบ ที่ตระเวนก่อเหตุหลอกลวงในโลกออนไลน์ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอท.1 จับกุมตัว หลังก่อเหตุแอบอ้างปลอมตัวเป็น ฝ่ายไอที ของวิทยาลัยแห่งหนึ่ง หลอกลวงเงินค่าฉีดวัคซีนโควิด ซึ่งหลังถูกจับกุมได้ประกันตัวออกมาและอยู่ระหว่างสู้คดี แต่ยังคงมีพฤติกรรมหลอกลวงตุ๋น โดยพัฒนารูปแบบต่างๆตามกระแสสังคม เช่น ปลอมเป็นเภสัชหลอกขายฟ้าทะลายโจร, หลอกขายหวยกองสลากพลัส จากแนวทางสืบสวน ยังทราบอีกว่า ได้ก่อวีรกรรมแสบ “ต้มตุ๋นเจ้าหน้าที่” เลียนแบบหนัง Catch me if you can กล่าวคือ เคยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดหนึ่งได้เข้าไปที่บ้านเพื่อจับกุมตัวนายไวท์ แต่ได้มีการโวยวายอ้างว่าถูกจับกุมไปแล้ว สร้างความไขว้เขวกับเจ้าหน้าที่ ก่อนจะใช้จังหวะทีเผลอหลบหนีออกจากบ้านไป กระทั่งเจ้าหน้าสืบนครบาลสืบทราบว่า นายณรงค์ฤทธิ์ ได้เข้าพักในโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ตาคลี อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์  โดยขณะจับกุมเจ้าตัวยังคงใช้มุขเดิมโดยพยายามตุ๋นเจ้าหน้าที่ว่า ตนถูกจับกุมไปแล้ว แต่ชุดสืบนครบาลไม่หลงกล จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือก็พบว่ามีการ “ปลอมเป็นสารวัตรแจ๊ะ” แล้วกำลังจะหลอกขายเสื้อให้กับเหยื่อได้อย่างฉิวเฉียด

สอบสวน นายณรงค์ฤทธิ์ฯ ให้การว่า “เรื่องการขายโควตาวัคซีนนั้น ตนเป็นผู้สร้างบัญชีเฟซบุ๊กขึ้นมาใหม่และประกาศหาคนที่ต้องการฉีดวัคซีนให้มาลงเป็นกับตน แต่ภายหลังไม่ได้การรับวัคซีน จึงเป็นเหตุให้ผู้เสียหายไปฟ้องตน ในส่วนนี้ก็ถูกดำเนินคดีไปแล้ว ต่อมาการหลอกขายสมุนไพรฟ้าทลายโจร ได้สร้างเฟสบุคขึ้นมาใหม่เช่นกัน ในช่วงเวลาเดียวกับเคสวัคซีน และก็ไม่ได้มีการจัดจัดส่งสมุนไพรให้ผู้สั่งซื้อแต่อย่างใด และกรณีล่าสุดตนเองแอบอ้างเป็นสารวัตรแจ๊ะ กำลังจะหลอกขายเสื้อให้กับเหล่าแฟนคลับแต่ว่ามาถูกจับได้เสียก่อน”  จึงนำตัวตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน ดำเนินคดีต่อไป นอกจากนี้ตรวจสอบประวัติพบ มีหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ 1043/2566ลงวันที่ 14 พ.ย. 66 ข้อหา “ร่วมกันพยายามฉ้อโกง, ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ และร่วมกันใช้เอกสารสิทธิปลอม, ร่วมกันหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน และเคยถูกดำเนินคดีอาญาในท้อง สน.ทุ่งสองห้อง ข้อหา “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ, ใช้ตราสัญลักษณ์ปลอมของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เป็นภาพของผู้ใช้โดยผิดกฎหมาย ท้องที่ สภ.เมืองระยอง ข้อหา ฉ้อโกง

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีที่เกิดขึ้นในช่วงที่ประชาชนกำลังวิตกกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) แต่คนร้ายอาศัยช่วงเวลาดังกล่าว หลอกจองโควตาการฉีดวัคซีน, หลอกจองสมุนไพรฟ้าทลายโจร ซึ่งสร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก ล่าสุดคนร้ายรายนี้วางแผนเตรียมการ หลอกขายสินค้าให้กับกลุ่มแฟนคลับสารวัตรแจ๊ะ โอกาสนี้จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนทุกคน โปรดระมัดระวังมิจฉาชีพให้ดีสารวัตรแจ๊ะตัวจริงไม่เล่นโซเชียลมีเดียใดๆทุกแพลตฟอร์ม หากท่านมีเบาะแสสามารถส่งข้อมูลมาได้ที่ เพจสืบนครบาล IDMB ได้ตลอด 24 ชม.

RELATED ARTICLES