ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รักษาการรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เร่งรัดปราบปราม จับกุม กลุ่มบุคคลหลอกลวงฉ้อโกงประชาชน รวมถึงกลุ่มบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการบันเทิงที่ขายความฝันและโอกาสให้แก่เด็กที่อยากจะเข้าสู่วงการบันเทิง หลอกลวงให้ผู้ปกครองที่สนใจให้สมัครและอ้างว่าสามารถที่จะนำพาเด็กประกวดเดินแบบและถ่ายแบบทั้งในไทยและต่างประเทศ โอนเงินให้แก่ทางกลุ่มบุคคลดังกล่าวเป็นจำนวนรายละกว่า 100,000 – 200,000 บาท อันเป็นการสร้างความเดือดร้อนความผิดหวังให้แก่เด็กและเยาวชนที่มีความฝัน
ต่อมา ชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาลรับแจ้งเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มผู้ปกครองที่ตกเป็นเหยื่อ ในพื้นที่ทั่วกรุงเทพมหานครจำนวนหลายรายว่า มีอดีตนักปั้นเป็นที่รู้จักในยุคปี 2562 ได้เปิดเพจเฟซบุ๊กชื่อว่า “Top model 2022” ในสื่อสังคมออนไลน์ ชักชวน ให้ผู้ปกครอง ที่สนใจนำบุตรหลาน เข้าสมัครประกวดการเดินแบบและถ่ายภาพ เพื่อเป็นบันไดเข้าสู่วงการบันเทิง โ หลอกลวงให้ผู้ปกครองโอนเงิน ค่าใช้จ่ายในการสมัคร และค่าเดินทางไปเดินแบบและถ่ายแบบ ทั้งในและต่างประเทศเข้าบัญชีธนาคารของตัวเอง พอถึงกำหนดนัดหมายก็มิได้เป็นไปตามข้อตกลงที่ให้ไว้จนมีกลุ่มผู้ปกครองจำนวนหลายสิบรายได้รับความเสียหาย รวมมูลค่ากว่าเกือบสิบล้านบาท
พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล มอบหมายชุดลาดตระเวนออนไลน์ประกอบด้วย พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผู้กำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รองผู้กำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รองผู้กำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล พ.ต.ต.กฤตวัฒน์ ขุนอินทร์ สารวัตรกองกำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ร.ต.อ.ปรัชญา โคตรสาขา รองสารวัตรกองกำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ด.ต.มานพ มากบุญ ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล นำกำลังออกติดตาม
กระทั่งจับกุมตัวนายจรุงศักดิ์ พุ่มพวง อายุ 51 ปี ภูมิลำเนาพักอาศัย อยู่ที่ 333/108 หมู่บ้านอารีนาการ์เดนท์ ตำบลบางพลี อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ได้ที่บ้านพัก ตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.3143/2566 ลงวันที่ 19 กันยนยน 2566 กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันในข้อหาฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันในข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” มีผู้เสียหายจำนวน 3 รายตกเป็นเหยื่อสูญเงินมูลค่ากว่า 350,000 บาท และยังพบว่ามีผู้ปกครองผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนหลายรายเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีผู้ต้องหากับพวกในพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลมักกะสันอีกจำนวนหนึ่ง
สอบสวนให้การภาคเสธรับว่า เปิดบริษัทท็อปโมเดล(ไทยแลนด์) จำกัด จริง ในฐานะกรรมการผู้จัดการ และเปิดเพจเฟซบุ๊กชื่อว่า “Top model 2022” ในลักษณะสาธารณะ พร้อมทั้งประกาศข้อความชักชวนรับสมัครประกวดเดินแบบเด็กและเยาวชนเพื่อเข้าสู่วงการบันเทิง เสียค่าสมัครประกวดเดินแบบ (ค่าแรกเข้า) จากนั้นติดต่อพูดคุยกับผู้ปกครองว่า มีงานเทรนนิ่งเดินแบบและมีงานประกวดเดินแบบ ทั้งในและต่างประเทศ หากผู้ปกครองท่านใดสนใจจะต้องโอนเงินค่าใช้จ่าย ค่าเดินทาง ในการเดินแบบ ให้ทางบริษัทก่อน และอ้างว่าทางผู้ปกครองจะได้รับเงินค่าจ้างในการเดินแบบหลังจากเสร็จงาน แต่ท้ายสุดบ่ายเบี่ยงยกเอาเหตุผลเกิดปัญหาและข้อขัดข้องในการติดต่อประสานงานในเรื่องเดินทางกับทางเจ้าภาพผู้จัดการประกวด เนื่องจากเป็นช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ไม่สามารถนำเด็กและผู้ปกครองไปเข้าร่วมการประกวดดังกล่าวตามที่สัญญาได้ เป็นเหตุให้บริษัทเกิดปัญหาทางการเงินและได้ปิดตัวลงในช่วงปลายปี 2565
อย่างไรก็ตามจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่า ผู้ต้องหาได้เปิดบริษัทท็อปโมเดล(ไทยแลนด์) Top model Thailand จำกัด และเปิดเพจเฟซบุ๊ก ในลักษณะเปิดเป็นสาธารณะประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงและมองเห็นได้มีการประกาศข้อความชักชวนว่ารับสมัครประกวดและเดินแบบเด็กและเยาวชนเพื่อเข้าสู่วงการบันเทิง เมื่อมีผู้ปกครองบุตรหลานสนใจทักไปหาและชักชวนสมัครประกวดโดยเสียค่าใช้จ่ายแรกเข้าเพื่อเทรนนิ่งเดินแบบตามห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านพระราม 9 คิดค่า สมัครแรกเข้าเด็กคนละ 1,000 บาท ต่อมาชักชวนให้ผู้ปกครองนำบุตรหลานให้ร่วมเข้าประกวดการเดินแบบและถ่ายแบบในงานประกวด “miss international” ย่านพัทยา จังหวัดชลบุรี เสียค่าสมัครประมาณ 5,000 บาทต่อคน อีกทั้งยังต้องจะต้องโอนค่าใช้จ่ายต่างๆ อาทิ ค่าประกันงาน ค่าสปอนเซอร์ ค่าเดินทางเข้าประกวด ประมาณ 40,000 – 50,000 บาท ไม่รวมผู้ติดตาม และชักชวนให้ผู้ปกครองนำพาบุตรหลานเข้าประกวดเดินแบบในต่างประเทศ อาทิ ฮ่องกง สิงค์โปร์ เสียค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองในการติดตามบุตรหลานท่านละประมาณ 10,000 – 20,000 บาท ไม่มีค่าใช้จ่ายเด็กแต่อย่างใด ก่อนเชิดเงินหลบหนีทำลายความหวัง ความฝัน ของเด็กและผู้ปกครองอย่างแสนสาหัส ด้วยอุบายและพฤติการณ์หลอกลวงที่เกิดขึ้น
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาลฝากประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มผู้ปกครองบุตรหลานที่คาดว่าจะตกเป็นเหยื่อและได้รับผลกระทบของผู้ต้องหาสามารถแจ้งและสอบถามมายั กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล อีกทั้งยังขอเตือนภัยไปยังผู้ปกครองและบุตรหลานที่มีความฝันในการเข้าสู่วงการบันเทิงทุกท่าน ควรตรวจสอบและพิจารณาให้ถี่ถ้วน รอบคอบเสียก่อน เพื่อมิให้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว และหากพบเบาะแสของกลุ่มมิจฉาชีพลักษณะนี้ สามารถแจ้งเข้ามาที่ เพจสืบสวนนครบาล IDMB ตลอด 24 ชม. แม้จะไม่เป็นคดีอุกฉกรรจ์แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ