“หน้ากากเสือมาแล้ว” เสียงสิบเวรส่งสัญญาณกลางดึก
โรงพักคืนนั้นหน้าตาตื่นออกมาตั้งแถวรอรับคำสั่ง ภาพของนายตำรวจนครบาลมาดขึงขัง ใบหน้าดุเป็นที่เกรงขามของผู้บังคับบัญชาตระเวนตรวจความเรียบร้อยตามสถานีตำรวจตอนประมาณตีสอง ตีสามอยู่เป็นประจำ
กระทั่งสื่อมวลชนพากันตั้งฉายาว่า “หน้ากากเสือ”
เวลานั้นเจ้าตัวไม่รู้ด้วยซ้ำ
“เหมือนหนังการ์ตูนนักมวยปล้ำญี่ปุ่นสวมหน้ากากเสือที่ผมชอบดูไงพ่อ หมายถึงผู้พิทักษ์คุณธรรม” พ.ต.อ.ชิตพล กาญจนกิจ อาจารย์ สบ 5 กลุ่มงานอาจารย์ กองบัญชาการศึกษา ย้อนวันวานระลึกถึงบิดา
“ดีเหมือนกัน” นายพลนครบาลยิ้มยอมรับกับฉายา “หน้ากากเสือ”
พล.ต.ท.ชัยสิทธิ์ กาญจนกิจ อีกตำนานนายพลเมืองหลวง เกิดบ้านเลขที่ 116 ถนนขวาง ตำบลตลาด อำเภอเมืองจันทบุรี ลูกชายคนโตของ ร.ต.อ.ชนะ –สุภาพ กาญจนกิจ จบประถมศึกษาโรงเรียนอำนวยวิทย์ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ มัธยมต้นโรงเรียนประจำจังหวัดสมุทรปราการ มัธยมปลายโรงเรียนเทพศิรินทร์ ก่อนไปสอบเข้าโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่น 6
เริ่มรับราชการตั้งแต่ระดับรองสารวัตรสถานีตำรวจนครบาลทั้งฝ่ายปกครองและฝ่ายสอบสวนตั้งแต่ปี 2502 เป็นต้นมา ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีผลงานเป็นที่ปรากฏและได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น
ได้รับพิจารณาให้ได้เลื่อนตำแหน่ง เลื่อนยศก้าวหน้าเสมอมาเป็นลำดับจนขยับขึ้นเป็นผู้บังคับการตำรวจนครบาลธนบุรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ก่อนโยกเป็นจเรตำรวจ
ไม่กี่เดือนต่อมาคืนถิ่นนั่งเก้าอี้ “ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล” แทน พล.ต.ท.จำลอง เอี่ยมแจ้งพันธุ์ ที่เลื่อนขึ้นผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ
พัฒนาหน่วยในการจัดทำโครงการให้สอดคล้องกับเหตุการณ์ขณะนั้นเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ใต้บังคับบัญชาและชาวกรุงมากมาย อาทิ โครงการตรวจสอบวัดผลงานของตำรวจในแต่ละหน้าที่ แปลงผลงานเป็นตัวเลขเก็บข้อมูลเข้าคอมพิวเตอร์ไว้พิจารณาบำเหน็จความชอบในรอบปี
เป็นการแสวงหาความยุติธรรมให้กำลังพล
ขณะเดียวกันยังทำ “โครงการตำรวจบ้าน” ที่มุ่งแสงหาความร่วมมือจากประชาชน ผลจากโครงการสามารถลดอาชญากรรมลงได้อย่างมากในรอบ 10 ปี ตลอดจนบ่อนการพนัน แหล่งอบายมุขผิดกฎหมาย แหล่งยาเสพติดได้อย่างน่าประหลาด
เนื่องจากมีประชาชนในท้องที่ช่วยกันเป็นหูเป็นตาคอยดูแล อีกทั้งตำรวจก็มีขวัญกำลังใจดี เพราะได้รับความเป็นธรรมจากการปฏิบัติหน้าที่อย่างแท้จริง
น่าเสียดายดำรงตำแหน่งแม่ทัพตำรวจเมืองหลวงเพียง 10 เดือนถูกปรับย้ายเป็นผู้บัญชาการประจำกรมตำรวจ (ประจำสภาความมั่นคงแห่งชาติ) จวบจนเกษียณอายุราชการเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2539
กระนั้นก็ตามระหว่างปฏิบัติหน้าที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ เขาได้ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ สติปัญญา ความรู้และประสบการณ์ที่มีอยู่ทั้งหมดเข้าช่วยเหลือเพื่อให้ประเทศชาติมีความมั่นคงอย่างแท้จริง ด้วยการเข้าร่วมวางแผนและออกตรวจสอบการปฏิบัติตามนโยบายที่สำคัญหลายประการ
เจ้าตัวยังทิ้งมรดกอันล้ำค่าเมื่อแสวงหาที่ดินให้กรมตำรวจสร้างโรงพัก 7 แห่ง คือ สถานีตำรวจนครบาลมักกะสัน สถานีตำรวจนครบาลลาดพร้าว สถานีตำรวจนครบาลบางชัน สถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน สถานีตำรวจนครบาลสุทธิสาร สถานีตำรวจนครบาลบางยี่ขัน และสถานีตำรวจนครบาลท่าพระ
นับว่าได้ช่วยรัฐบาลประหยัดงบประมาณแผ่นดินไปได้จำนวนมาก
“หน้ากากเสือมาแล้ว” เสียงสะท้อนบนโรงพักในอดีตหายไป
“ปิดตำนานหน้ากากเสือเสียที” พันตำรวจเอกลูกชายคนรองรำลึกผู้บังเกิดเกล้าที่ถึงแก่อนิจกรรมด้วยโรคชราในวัย 86 ปีเศษ
“ พ่อเป็นคนดุ ขนาดผมเป็นลูกยังกลัว ทำไมลูกน้องจะไม่กลัว”
แต่เขาไม่เคยลืมคำสอนของพ่อ
“ผมมีตัวตนได้ทุกวันนี้เพราะพ่อ”