ปทส.ร่วมปศุสัตว์ บุกยึดซาก “หมูเถื่อน” 1.8 ตัน ย่านบางซื่อ

พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. สั่งการ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รอง ผบก.ปทส. พ.ต.อ.สมบัติ มาลัย รรท. ผกก.1 บก.ปทส. พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ รอง ผกก.1 บก.ปทส. พ.ต.ท.ธานุพันธ์ สุระสะ, พ.ต.ท.ไพรวรรณ ตั้นหลก , พ.ต.ต.วัชระ บุดดีคำ สว.กก.1 บก.ปทส. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ นำกำลังจับกุม นายธนะพล (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี พร้อมของกลางซากสุกร จำนวน 1,800 กิโลกรัม ได้ที่โรงชำแหละซากสุกรไม่มีชื่อ แขวงและเขตบางซื่อ กรุงเทพฯ 

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ ได้รับการร้องเรียนว่าโรงชำแหละสุกรไม่มีชื่อย่านบางซื่อ ได้ลักลอบนำเนื้อและชิ้นส่วนสุกรมาจากพื้นที่ต่าง ๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่ทราบแหล่งที่มา ซึ่งการขนย้ายไม่ถูกสุขอนามัย อาจทำให้มีการปนเปื้อนเชื้อก่อโรคที่ไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค และประกอบกิจการที่ไม่ถูกสุขอนามัย ในพื้นที่ใกล้เคียง ส่งกลิ่นเหม็นเป็นปัญหามลพิษทางอากาศ และเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรค สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ พบนายธนะพล แสดงตัวเป็นเจ้าของ 

จากการตวจสอบพบว่ามีซากสุกรบางส่วน วางบนพื้นทางเดินโดยไม่มีภาชนะหรือสิ่งใด ๆ ปกคลุม ซึ่งซากสุกรทั้งหมดที่พบมีจำนวน 7,500 กิโลกรัม ซึ่งซากที่มีเอกสารถูกต้องมีเพียง 5,700 กิโลกรัมเท่านั้น ส่วนอีก 1,800 กิโลกรัม ไม่ทราบแหล่งที่มา และไม่สามารถนำเอกสารมาแสดงได้ จึงแจ้งข้อหา “ไม่ปฏิบัติตามมาตรา 22 แห่ง พ.ร.บ. โรคระบาดเคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์เข้าเขตโรคระบาดชั่วคราว เขตโรคระบาด หรือเขตเฝ้าระวังโรคระบาด โดยไม่ได้รับอนุญาตจากสัตวแพทย์ประจำเขต เนื่องจากพื้นที่กรุงเทพมหานครประกาศเป็นเขตเฝ้าระวังโรคระบาดชนิดอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 65 จำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และ ทำการอายัดซากสุกร จำนวน 1,800 กิโลกรัม ไว้ที่ห้องเย็น พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างนำตรวจหาเชื้อโรคระบาด ก่อนนำตัวผู้ต้องหา ส่ง พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปทส. ดำเนินคดี ต่อไป

พล.ต.ต.วัชรินทร์ กล่าวว่า การจับกุมโรงเชือดสุกรดังกล่าวเพื่อความปลอดภัยต่อผู้บริโภคเป็นหลัก เนื่องจากเนื้อสัตว์ที่ไม่ทราบแหล่งที่มา ไม่มีการตรวจสอบใด ๆ ไม่ถูกสุขลักษณะ ทำให้มีความเสี่ยงที่จะปนเปื้อนเชื้อโรคสูง อาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค และเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคระบาดที่สำคัญ หรืออันตรายจากสารตกค้าง เช่น สารเร่งเนื้อแดง ฮอร์โมน และยาปฏิชีวนะ เป็นต้น ส่งผลต่อสุขภาพของผู้บริโภคและอาจทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ส่วนของกลางที่เป็นซากสัตว์ทางกรมปศุสัตว์จะทำลายโดยการฝังหรือเผาตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

RELATED ARTICLES